1.Broad Match การจับคู่แบบกว้าง
เป็นประเภทการทำงานที่จะช่วยให้คำหลักของคุณเข้าถึงกลุ่มผู้ชมแบบกว้างที่สุด เมื่อคำหลักของคุณเป็นแบบกว้างโฆษณาของคุณจะมีสิทธิ์ปรากฏเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ค้นหา ในวลีที่สำคัญของคุณตามลำดับ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้มีการสะกดผิดและคำพ้องที่มีความหมายเกี่ยวกับโฆษณาของคุณก็ยังคงปรากฏให้เห็น ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้การทำงานแบบกว้างกับคำหลัก “women’s hats” โฆษณาของคุณอาจปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้ค้นหา “men’s hats” และ “women’s scarves” หรือ “girl fedoras” ข้อดีคือโฆษณาของคุณจะติดง่าย แต่ข้อเสียคืออาจจะได้ผู้ชมที่ไม่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างแบบ Broad Match การจับคู่แบบกว้าง
2.Phrase Match การจับคู่วลี
การจับคู่วลีเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสมดุลในการควบคุมและการเข้าถึง ซึ่งทำให้คำโฆษณาของคุณจะปรากฏเฉพาะเมื่อผู้ชมใช้ค้นหาวลีคำหลักที่แน่นอนตามและมีคำของคุณตามลำดับที่ถูกต้อง อาจมีคำเพิ่มเติมบางอย่างในตอนต้นและตอนท้ายของข้อความ หากคุณใช้คำหลัก “women’s hats” คำค้นหาของคุณจะแสดงเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ค้นหาคำว่า “red women’s hats” แต่จะไม่ขึ้นถ้าเป็น “women’s blue hats” หรือ “hats for women” สลับหน้าหลังได้แต่ห้ามแยก
ตัวอย่างแบบ Phrase Match การจับคู่วลี
3.Exact Match หรือ Close Variant Matching แบบตรงทั้งหมด
เป็นประเภทการทำงานแบบตรงเป๊ะๆเป็นตัวเลือกที่ จำกัดมากที่สุดใน(เฉพาะเจาะจง) ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีคนค้นหาโดยที่ไม่พิมพ์ตรงตามที่เราตั้งไว้ ก็จะไม่สามารถค้นหาเราเจอ ข้อดีคือคุณจะได้ผู้ชมที่มีความสนใจและเกี่ยวข้องแบบตรงๆ และไม่เสียเงินต่อการคลิกค้นหาแบบฟุ่มเฟือย
ตัวอย่างแบบ Exact Match หรือ Close Variant Matching แบบตรงทั้งหมด
"หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่ยิ่งโฆษณา Google Adwords นะครับ"
ขอบคุณแหล่งที่มา :blog.tryadhawk.com