เทคนิคการเขียน Title ที่มีผลดีต่อ SEO

เทคนิคการเขียน Title ที่มีผลดีต่อ SEO

Title tags ตามปกติแล้วจะใช้บอกชื่อหน้าของเว็บ ซึ่งจะแสดงผลอยู่ด้านบนสุดของ Web Browser ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกได้ว่าสำคัญลำดับต้นๆ ในการทำ SEO (จะเป็นรองก็แค่ชื่อ Domain, URL ) เพราะผลลัพธ์ในการค้นหาที่ได้นั้นจะแสดงผลเนื้อหาที่อยู่ใน Title tags ก่อน นั่นเอง 

หากสังเกตุดีดีจะพบว่าในอันดับต้นๆที่เป็นผลลัพธ์จากการค้นของของ Search Engine นั้นไม่มีผลลัพธ์ใดเลยที่ไม่มี Keyword อยู่ใน Title tags ซึ่งแน่นอนว่า Keyword ที่อยู่ในเนื้อหา นั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แต่มันจะดีกว่าหากว่าเราให้ความสำคัญตั้งแต่ชื่อของเว็บ โดยพิจารณาดังนี้

  1. Keyword สำคัญที่ต้องการให้ค้นหาเจอ หรือ Keyword ที่เป็นตัวแทนของเว็บนั้น จะต้องอยู่ใน Title tag
  2. ความยาวไม่ควรเกิน 70 ตัวอักษร หรือประมาณ 7 – 10 คำ
  3. ผู้ใช้งานสามารถอ่านได้ง่าย 
  4. ไม่ควรใส่ชื่อหน้า เช่น  ติดต่อเรา สินค้า หรือ หน้าแรก เพราะไม่สื่อถึงความหมาย และผู้ใช้งานก็ไม่ได้ใช้คำพวกนี้ในการค้นหา
  5. พยายามให้ Keyword ที่ต้องการนั้นอยู่ชิดกัน เช่น เรียนดนตรี KPN ไม่ควรใช้เป็น เรียนดนตรี ที่สถาบัน KPN เพราะเราต้องการเน้น Keyword 2 ตัวคือ เรียนดนตรี และ KPN
  6. ควรให้ Keyword อยู่เป็นคำแรกใน Title tags
  7. ไม่ควรใช้ Keyword ใน Title tags ซ้ำกัน เพราะจะทำให้คำนั้นกลายเป็นขยะไป
  8. ลำดับของ Keyword มีความสำคัญ เช่น โปรแกรม HR ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า HR โปรแกรม เพราะด้วยคำว่าโปรแกรม HR มีความหมายตรงกว่า HR โปรแกรม

คำเตือน การใส่ Title Tag ที่ดีต่อ SEO

       Title Tag ไม่ควรเว้นว่างไว้ (ไม่ใส่เลย) หรือใส่ Title Tag แต่ใส่แบบใส่ไปเรื่อยเปื่อย  เพราะคิดว่าค่อยเปลี่ยนที่หลัง การทำเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ผิดอย่างยิ่ง  เพราะเมื่อ Google นำ เว็บของเราเข้า Index แล้วนั้น หากจะเปลี่ยน Title Tag ใหม่ ต้องรออีกนานมากๆ กว่าจะอัปเดต 

ขอบคุณแหล่งที่มา : seomodify

โดย :
 3559
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Pay per click เป็นการ โฆษณา ผ่านทางตัวแทนเว็บ เพื่อทำการ โฆษณา เว็บของคุณ โดย ค่าใช้จ่าย จะคิดจากจำนวนคลิกเป็นหลัก หากไม่มีจำนวนของการคลิก ก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่อาจจะมีแตกต่างไปบ้างตามแต่ข้อตกลงแต่ละค่าย เช่น อาจจะมีการคิดเพิ่มเติมในรูปแบบของ ePPM หรือ จำนวนการแสดงโฆษณาต่อการแสดงหนึ่งพันครั้ง ในปี 2550 กูเกิล ได้เสนอระบบใหม่ Pay-Per-Action[1] ซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง โดยเปลี่ยนจากระบบการจ่ายเงินค่าโฆษณาตามจำนวนที่มีคนคลิกเข้าไปดู เป็นการจ่ายเงินตามการกระทำที่กำหนด เช่น ซื้อของอย่างน้อยหนึ่งชิ้น หรือเข้าดูหน้าใดหน้าหนึ่ง โฆษณา PPC นั้นคือการลงโฆษณาผ่าน search engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, MSN ใน keywordที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ วิธีนี้จะคล้ายคลึงกับการทำ SEO (Search Engine Optimization)เพียงแต่เว็บของคุณจะปรากฏอยู่ทางขวามือในส่วนของโฆษณา(ในขณะที่ SEO จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) โดยคุณจะเสียเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้นหากแสดงเฉย ๆ จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา
เป็นการแนะนำ 5 เทคนิคการเขียน Content ให้โดนใจลูกค้า และประสบความสำเร็จ
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้อความหรือความคิดทางมาร์เกตติ้งของเราได้ถูกส่งผ่านสื่อดิจิทัลไม่มากก็น้อย แต่เมื่อคุณต้องปรับตัวเข้าสู่การตลาดบน Twitter Facebook Pinterest หรือ Instagram แล้ว กลยุทธ์ในการสื่อสารก็ต้องปรับตัวและการหาความรู้เรื่องธรรมชาติของโซเชียลมีเดียถือเป็นเรื่องจำเป็น ต่อไปนี้เป็นทิปเล็กน้อยที่ช่วยมือใหม่ในการตรวจแผนมาร์เกตติ้งบนโซเชียลเนคเวิร์กว่าพอจะไปได้หรือยัง

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์