4 เหตุผลที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website

4 เหตุผลที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website


มันก็มีเหตุผลของมันอยู่จากข้อความที่ว่าทำไมถึงไม่ควรใช้ Facebook แทน Website เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้เราต่างก็ใช้งาน Facebook กันอยู่อย่างมากมาย อีกทั้ง Facebook คือ Social Network ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คนในสังคมไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนสูงอายุ ก็ปรับตัวและหันมาใช้งานเกี่ยวกับ Facebook เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว 


เพราะการใช้งานอย่างหลากหลายของคนในสังคมไทย ผู้ประกอบการทั้งหลายจึงเล็งเห็นว่า Facebook นี้ถือเป็นช่องทางสำคัญที่จะทำการค้าหรือสร้างเป็นธุรกิจขึ้น ประกอบกับความสะดวกของรูปแบบการใช้งานที่หลายคนได้นำมาเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจออนไลน์ แทนการใช้งานเว็บไซต์นั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่า Facebook ที่เราชื่นชอบกันนักหนาและใช้งานกันอย่างสนุกสนานนั้น ยังมีข้อเสียที่เราคาดไม่ถึงกันอยู่ และหลายผู้ประกอบการก็มักจะเลือกทำ Facebook มากกว่าที่จะเลือกใช้ Website ซึ่งการมี Fan page ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อธุรกิจ แต่เพราะอะไรถึงไม่ควรใช้ Facebook แทน Website มีเหตุผลดังนี้

1. Facebook นั้นไม่ยั่งยืน มีความไม่มั่นคง
อย่างที่ทราบกันดีว่า Facebook นั้นได้มีการอัปเดตหน้าตา Feature ต่างๆ และกฎระเบียบใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะมากระทบหน้า Facebook ของเราหรือไม่ ดังนั้นเราไม่ควรเสี่ยงที่จะเอาธุรกิจไปอยู่บนสิ่งที่ไม่แน่นอน ลองนึกภาพถ้าหากลงทุนไปกับ Facebook 2 ปี มีคนกด Like Page ประมาณ 20,000 คน แต่หากวันหนึ่งมีกำหรือมีเทคนิคขัดข้องทำให้ Fan Page ของเราหายไป และธุรกิจของเรานั้นไม่มี Website ก็เท่ากับว่าธุรกิจบนโลกออนไลน์แทบจะหายไปหมด

2. Facebook มีปัญหาในการแสดงผล
Facebook นั้นมีปัญหามีการแสดงผลได้หลายกรณี ดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 ถ้าคนที่ไม่ได้ทำการ Login อาจจะมีปัญหาในการเข้าชม ไม่สามารถกด Like หรือ Share ได้
กรณีที่ 2 สำหรับมือถือบางรุ่นนั้นอาจจะยังไม่รองรับและมีปัญหาในการเข้าชม
กรณีที่ 3 Application ของมือถือบางรุ่น ในบางครั้งอาจมีปัญหาในการเข้าชม
กรณีที่ 4 การแสดงผลของ Facebook ในหน้าจอการแสดงผลต่างๆ ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก เช่น Tablet Computer นั้นจะแสดงผลไม่เหมือนกัน

3. ลูกค้าจะเข้า Facebook แล้วเจอสิ่งที่ต้องการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
หากเราต้องการให้ Facebook นั้นมีเมนูสินค้ายอดนิยม สินค้ามาใหม่ แยกหมวดสินค้า หรืออื่นๆ นั้นเป็นวิธีการที่ค่อนข้างยากและมีความเป็นไปไม่ได้เท่าไหร่ เพราะด้วยความเป็นรูปแบบของ Facebook ด้วย หากจะจัดอะไรที่เป็นระเบียบสักหน่อยอาจจะค่อนข้างยาก อีกทั้งผู้ที่เข้าเว็บไซต์บางคนอาจจะชอบอะไรที่ค้นหาได้ง่ายและเป็นระบบระเบียบมากกว่าและอีกทั้งหากเขาหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอก็อาจปิดไปเลยก็ได้

4. Facebook มีความน่าเชื่อถือน้อยกว่า Website อย่างมาก
ในมุมมองของลูกค้า การสั่งของจาก Facebook นั้นก็มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง และมีความกังวลมากกว่าสั่งซื้อจากเว็บไซต์ เพราะเฟซบุ๊กนั้นสามารถปิดไปเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีทางที่จะตามตัวได้เลย และถ้าหากลูกค้าพบเจอสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือและความสบายใจมากกว่าก็มีแนวโน้มว่าจะไปซื้อสินค้ากับสิ่งนั้นแทนเช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะเลือกทำ Facebook เพื่อใช้ในธุรกิจต่อไปหรือไม่ หรือจะเลือกทำเพียงแค่เว็บไซต์อย่างเดียว แท้จริงแล้วสิ่งที่เราควรทำมากที่สุดนั่นก็คือทั้งสองอย่าง เพราะว่า Facebook ก็ถือว่ามีความนิยมอยู่ในปัจจุบันและเว็บไซต์นั้นก็เน้นในส่วนของความมั่นคงและมีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งการใช้งานในระยะยาว ทั้งสองอย่างนั้นมีประโยช์ที่เกื้อกูลและสนับสนุนกันอยู่ ทางที่ดีมีทั้งสองช่องทางการสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งานมากที่สุดก็จะส่งผลให้ถูกใจในระยะยาวและกลายเป็นลูกค้าประจำของเราได้

















ขอขอบคุณแหล่งที่มา : wynnsoft-solution
โดย :
 1514
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จำลองและประมวลผลการตอบโต้ของมนุษย์กับอุปกรณ์ดิจิทัลได้ เป็นลักษณะการตอบกลับทุกคำถามเพียงบรรทัดเดียว เพื่อยกระดับความแม่นยำและป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล
ทำไมต้องมี CSS? ก่อนหน้านี้ เรารู้แล้วว่า HTML คือโครงสร้างของเนื้อหาในเว็บเพจ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ HTML เอาไว้บอกว่าในหน้าเว็บนั้นมีเนื้อหาอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้ว web browsers จะมีการกำหนด “สไตล์” ให้กับเนื้อหาเหล่านี้เอาไว้อยู่แล้ว แต่มันอาจจะไม่ค่อยสวยนัก ในการปรับเปลี่ยน “สไตล์” ให้กับเนื้อหา เราจะใช้สิ่งที่เรียกว่า “CSS (Cascading Style Sheets)” เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตำแหน่งของเนื้อหา ปรับขนาดของตัวอักษร หรือเปลี่ยนสีพื้นหลัง สิ่งเหล่านี้ ล้วนทำผ่าน CSS ทั้งสิ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ CSS มีไว้บอก web browsers ว่าเนื้อหาต่างๆ ควรแสดงผลออกมาอย่างไร
Heading Tag คืออะไร? ส่วนของ HTML Tag ที่ใช้เป็นส่วนกำหนดหัวข้อต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ว่าหัวข้อไหนเป็นหัวข้อหลัก และหัวข้อไหนเป็นหัวข้อรอง

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์