>>> หากพูดถึง Digital Marketing ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องของช่องทางการสื่อสารที่เปลี่ยนไปมากจากยุคก่อนๆ และ อีกประเด็นที่เป็นหัวใจหลักสำคัญไม่ว่าเราจะทำการตลาดยุคไหนก็ตาม สิ่งนั้นก็คือ Content Marketingcontent marketing ในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามช่องทางในการสื่อสารของผู้บริโภค จากการสื่อสารผ่านตัวอักษร มาเป็นรูปภาพ จากรูปภาพ ก็กลายมาเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่าง Video Contentและแบรนด์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็เลือกใช้ Video Content เป็นตัวเปิดประเด็นทำให้เกิดการสร้าง awareness และทำให้คนรู้จักในวงกว้างตั้งแต่ก้าวแรกของสินค้า หรือ ธุรกิจนั้นๆ เรียกว่าเป็นการสร้างกระแสจากวิดีโอ หรือการทำ Viral Video นั้นเอง
สำหรับในปี 2018 ที่จะถึงนี้ต้องบอกว่าจะเป็นปีแห่งคำว่าคุณภาพ เพราะช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ก็เริ่มต่างคัดกรองคอนเทนต์ที่ใช่ บวกกับคอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพสำหรับ Audience มากขึ้น
จึงอยากขอสรุปเพื่อเป็นทิศทางให้กับทั้งผู้ประกอบการ และ นักการตลาดไทยได้วางแผนล่วงหน้าสำหรับ Trend Content Marketing ที่จะเกิดขึ้นในปี 2018 ค่ะ
และ 5 Content Marketing Trend 2018 ที่น่าจับตามอง และนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดมีดังต่อไปนี้
.
5 Content Marketing Trend 2018
1. Original Content ( คอนเทนต์แท้จากแบรนด์โดยตรง)
คำว่า Original นี้ไม่ได้หมายถึงการสร้างคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ความเป็นเจ้าของคอนเทนต์ของแบรนด์เพียงอย่างเดียว แต่ orginial คือเรื่องของการสร้างคอนเทนต์คุณภาพที่เริ่มต้นจากขั้นตอนวิเคราะปัญหาของลูกค้า และ ค้นหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการผ่านการวางแผนกลยุทธ์ของ SEO และเป็นแหล่งรวมความรู้ วิธีแก้ไขปัญหาอย่างครบองค์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ให้มากขึ้น การตัดสินใจของลูกค้าจะเร็วหรือจะช้าก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เช่นกัน
อีกด้านหนึ่งของคำว่า original content ก็ไม่ได้เหมือนถึงการสร้างคอนเทนต์เพื่อมีในเว็บไซต์เพื่ออย่างเดียว และไม่ได้ขายลิขสิทธิ์นี้ให้ใคร หาก Audience อยากเสพคอนเทนต์เหล่านี้ต้องมาเว็บนี้เว็บเดียวตัวอย่างเช่น ภาพยนต์ และ หนังซีรี่ส์ต่างๆของ แอพลิเคชั่นดูหนังระดับโลกอย่าง Netflix เป็นต้น
2. Internet of Things
จะเข้ามามีบทบาทกระตุ้นให้คอนเทนต์ต้องเป็นรูปแบบ informative มากขึ้นตัวอย่างเช่นเป็นในรูปแบบ เสียงผ่าน podcast หรือในรูปแบบ game ผ่านเว็บแอพต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ให้กับ audience ได้ยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับแบรนด์อยู่เสมอ
3. Transparency is King
การนำเสนอของ content จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส โดยเฉพราะ Content ที่ แบรนด์นำเสนอผ่าน ผู้ทรงอิทธิพล ต่างๆ เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับการตลาดเชิงดิจิทัลมากขึ้น การใช้ผู้ทรงอิทธิพลมารีวิวสินค้านั้นโดยที่ไม่ได้มีการบอกกล่าว่าเป็นการโฆษณา อาจจะไม่ได้ดึงดูดอะไรแล้ว แต่การที่แบรนด์ให้ผู้ทรงอิทธิพลสื่อสาร และเป็นตัวกลางระหว่างแบรนด์ และเปิดเผยได้เลย จะทำให้ Audience รู้สึกว่าแบรนด์นั้นๆคือคนจริงๆ ตัวอย่างที่อยากจะเพิ่มเติมให้เห็นภาพได้ชัดคือ
ฝั่งอเมริกาจะมีผู้ทรงอิทธิพลที่พูดถึงเรื่อง Smartphone และมี subscriber บน youtube ติดตามเกือบ 10 ล้านภายในเวลาอันรวดเร็วก็คือ CaseyNeistat
ที่ทุกการรีวิวจะพูดเสมอว่าเขาทำงานให้ samsung และเขาก็จะพูดทุกอย่างจากความรู้สึกของเขา ระหว่างการรีวิว มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แต่ละคลิปจะมี mission ที่สอดแทรกไปว่า ตัวสินค้านั้นๆ จะสามารถผ่าน mission ที่กำหนดไว้ได้หรือไหม เช่น พกสมาทโฟนรุ่นนี้ไปตลุยขึ้นฟ้า ลงดิน ทำงานทุกที จะตอบโจทย์กับชีวิตอย่างไรบ้าง หรือแม้แต่การเปรียบเทียบคุณภาพวิดีโอของสมาทโฟนยี่ห้อ A กับ ยี่ห้อ B ก็จะมีการเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด เพื่อให้คนดูลุ้นว่า แบรนด์ไหนจะชนะ ทุกคอนเทนต์ถ่ายทำจากชีวิตจริง และมี ภารกิจสำหรับสินค้าที่เขานำมารีวิวทุกตอน และเปิดเผยทุกครั้งที่มีการ sponsored จากแบรนด์ต่างๆ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม เคซี่ย์จึงเป็น youtuber ยอดนิยมระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง
4. Content is fuel for the buyer’s journey (so fill it continuously)
Content ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการและกระหายตลอดเวลา ผู้บริโภคจะไม่หยุดมองหาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และ ตอบปัญหาที่เขามี เขาจะมีหาคอนเทนต์ที่ดีกว่าเสมอ และ มองหาคอนเทนต์ที่แปลกใหม่เสมอ เพราะฉะนั้นแบรนด์ต้องไม่หยุดนำเสนอคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ และ เพราะ Content ยังคงเป็นส่วนหลักสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจบริโภคสินค้านั้นๆอยู่ดี
5. Blurring of media line
เส้นบางๆระหว่างการใช้สื่อก็จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าทุกแบรนด์เร่งผลิตคอนเทนต์ออกมาเมื่อทุกแบรนด์ก็รู้ว่าคอนเทนต์คือหัวใจหลักสำคัญ สิ่งที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นการแข่งขันที่เกิดขึ้นบนหน้า feed ทุกๆช่องทางการสื่อสารบนโลกดิจิทัล ทำให้แบรนด์เองจะโฟกัสแต่ Own Media คงไม่พอ จึงต้องเริ่มบริหารจัดการเวลาไปโฟกัส Paid และ Earn Media ให้มากขึ้นอีกด้วย
.
.
.
ขอบคุณที่มา : stepstraining
