กฎ 3Ts ในการทำการตลาดออนไลน์ยุค 4.0

กฎ 3Ts ในการทำการตลาดออนไลน์ยุค 4.0

T1: Target

ก่อนอื่นเลย คุณต้องชัดเจน และเข้าใจ target group ของสินค้าคุณว่า คือใคร มี lifestyle เป็นอย่างไร มีปัญหาหรือความต้องการในเรื่องที่สินค้าคุณสามารถตอบโจทย์เค้าได้ดีเพียงใด และมีการพิจารณาทางเลือกไหนบ้างให้ในการตอบสนองความต้องการ และที่สำคัญคือ อะไรคือโอกาส และอุปสรรคในการตัดสินใจซื้อสินค้าคุณสำหรับ target group นี้ เช่น ประสิทธิภาพของสินค้า / ระดับราคา / ดีไซน์ / รูปแบบแพ็คเกจ และบรรจุภัณฑ์ / ข้อเท็จจริงที่ยืนยัน / บุคคลที่น่าเชื่อถือ / โปรโมชั่น ฯลฯ

ส่วนนี้ต้องทำการเก็บรวบรวมข้อมูล สรุป และวางแผนออกมาเป็นสินค้า และกลยุทธ์เรื่องผลิตภัณฑ์และราคา ให้พร้อมและเหมาะสมก่อนเอาไปทำการตลาดออนไลน์.. อย่าคิดเฉพาะเรื่องผลิตสินค้าออกมา กำหนดราคาโดยดูจากสินค้าคู่แข่งในตลาดว่าจะตั้งราคาระดับเดียวกับ สูงกว่า หรือต่ำกว่าเล็กน้อย แบบนั้น มันง่ายเกินไป และไม่สะท้อนถึง กลยุทธ์การตลาดภาพรวมอีกด้วย..​ สุดท้ายพอลงมือทำจริง คุณจะติดหล่ม จมปลัก ยึกยัก เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ดี..

T2: Text

ข้อความและการสื่อสาร ที่ต้องทำให้สอดคล้องกับ Target (กลุ่มเป้าหมาย) และ Product A&B (Product Advantage & Benefit)  เรื่อง Text นี้ จัดเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ นักการตลาดออนไลน์ที่เก่ง จะเลือกใช้คำเป็น – เน้นถึงประโยชน์ของลูกค้า (เป็นสำคัญ) – ทำออกมาให้น่าสนใจ (Copywrite)

T ตัวที่ 2 นี้ คุณต้องศึกษา คิดค้น และอาจต้องลองผิดลองถูกเอาเอง ไม่สามารถหาหรือคว้ามาจากที่ไหนได้แบบสำเร็จรูป ต้องอาศัยความเข้าใจจากข้อมูลใน T ตัวที่ 1 ผสมผสานกับกลยุทธ์ที่คุณจะใช้ในการสื่อสารการตลาด เช่น Differentiation Strategy / Me Too Strategy / Focus Strategy ไว้มีโอกาสจะเหลาให้ฟังเรื่อง Marketing Strategy แบบบ้านในวันหลัง

T3: Technique

เทคนิคในการทำตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยมากก็จะเป็น Facebook IG และ Line@ เทคนิคสายดำ สายเทา หรือแบบเอาง่ายๆ ซื้อไลค์ จ้างเม้นท์ ไม่เวิร์คแล้วนะ อย่าทำ.. T ตัวที่ 3 นี้ คุณสามารถหาได้จากสื่อต่างๆ เช่น บทความดีดีจากกูรู ที่แชร์ในเฟส หนังสือบางเล่ม ที่ผู้รู้จริงเขียนแชร์ให้อ่าน หรือคอร์สของกูรูดังในแวดวงการตลาดออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ ก็มีให้เลือกไม่น้อย แต่ย้ำว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (เงินฟรี) มีเยอะนะ..

เรียนรู้ และเอาเทคนิคที่ทราบมาวิเคราะห์ต่อ ว่าจะใช้เทคนิคไหนดี ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับ กลุ่มเป้าหมาย.. จำไว้ว่า 2 เรื่องคือ 1) เทคนิคการตลาดออนไลน์ มันมีพัฒนาการตลอดเวลา ดังนั้นต้องเรียนรู้ และติดตามอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ และ 2) ลำพังเทคนิคอย่างเดียว ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์อย่างที่ต้องการได้ ต้องอาศัย ความสอดคล้อง ลงตัว ระหว่าง Technique ที่ใช่ กับ Text ที่โดนใจ Target ของเรา 

สรุปสุดท้ายเป็นกฎ การตลาดออนไลน์ 3 ข้อคือ

การตลาดออนไลน์ต้องพร้อมทั้ง 3 เรื่อง ขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ (Target + Text + Technique)

การตลาดออนไลน์เรียนรู้ หรือเลียนแบบจากใครไม่ได้ เพราะสินค้าเป็นของคุณเอง และคุณเองก็ต้องการทำตลาดโดยสร้างความแตกต่างของสินค้าคุณ ดังนั้น คุณต้องลงมือคิด วางแผน ลงมือทำ และลองผิดลองถูกอย่างมีหลักการ และเหตุผลรองรับ

การตลาดออนไลน์ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นต้องเรียนรู้ ติดตาม อัปเดต และทำซ้ำ ในข้อ 1. และ 2. อย่างต่อเนื่อง หยุดนิ่ง เจ๊งจริงแน่ๆ

หวังว่าคงได้แง่คิด และประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย.. อ่านซ้ำ และคิดตาม รับรอง คุณจะเข้าใจดีขึ้น .. ถ้าใครหวังว่า อ่านบทความนี้จบ แล้วต้องได้คำตอบ ที่นำความสำเร็จมาให้อย่างง่ายดาย ทันที .. แสดงว่า คุณยังไม่เข้าใจแก่นของบทความนี้

 

 

 — วิริทธิพล —

โดย :
 1660
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่าน ๆ มา สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างพากันลงทุนจำนวนมากกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการศึกษาในปี 2017 จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "ประชาชาติธุรกิจ" จึงรวบรวมแนวโน้มการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไว้ดังนี้ เยสคอร์ส (YesCourse) ผู้สร้างแพลตฟอร์มการกระจายการศึกษาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้สถาบันการศึกษาทั่วโลกได้ขายหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ของตน โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3,500 สถาบันการศึกษาระบุว่า ในปีที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก และเป็นตัวเสริมให้การศึกษาแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนจากทุกที่ แต่ในปี 2017 ระบบการเรียนออนไลน์แบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น ซึ่งเราอาจได้เห็นและได้ยิน VR ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การบิน การทหาร และเกม แต่ในอนาคต VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในการเรียนรู้มากขึ้น แนวโน้มต่อมา คือ Cloud Migration หรือการเคลื่อนย้ายฐานข้อมูลต่าง ๆ สู่คลาวด์ ซึ่งสถาบันการศึกษานำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบไอทีของตนเองสู่ระบบคลาวด์มากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายเอง ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต จัดการบริหารทรัพยากรของระบบ และสามารถแบ่งทรัพยากรร่วมกันได้ง่าย อีกหนึ่งแนวโน้มที่ YesCourse พูดไว้ คือ การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) และการเรียนเชิงทำนาย (Predictive Learning) ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ผู้เรียนมีการโต้ตอบกับโปรแกรมการศึกษาออนไลน์ พวกเขาทิ้งรอยดิจิทัลไว้ (Digital Footprint) สิ่งนี้ทำให้สถานศึกษา และครูผู้สอนสามารถใช้ทำนายเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน และสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนและเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีต่อการเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ส่วนเว็บไซต์ Pathway to Financial Success บอกว่า แนวโน้มการศึกษาจะเข้าสู่ยุค The Internet of Things (IoT) เพราะอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน โดยบริษัทการ์ตเนอร์ (Gartner Inc.) ทำนายว่า ในปี 2020 จะมีอุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ เชื่อมต่อกันไม่ต่ำกว่า 20.8 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศอังกฤษจึงทุ่มงบฯลงทุนด้านการวิจัยและศึกษาด้าน IoT ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้เรียนได้รับประโยชน์จาก IoT ได้แก่ ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning), รู้จักการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning), กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและยั่งยืน (Self-directed Learning), ส่งเสริมเรียนรู้ผ่านพหุประสาทสัมผัส (Multisensory Learning), สร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (Gender Equality) และสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Creating Smart Classroom) นอกจากนั้น Real-World Case Studies หรือกรณีศึกษาจากโลกแห่งความจริงจะเข้มข้นมากขึ้นในทุกวิชา เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้เรียน และเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าข้อมูลในตำรา กรณีศึกษาในโลกแห่งความจริงยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียน ในขณะที่ "บิล เกตส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายการศึกษาจะน้อยลงและทุนการวิจัยจะมากขึ้น "เป็นที่รู้กันว่างานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการต่อยอดการศึกษา แต่ที่ผ่านมานักวิจัยหลายคนต่างต้องวิ่งเต้นหาทุนวิจัย และหาการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา โดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ฟรีจากระบบการศึกษาที่เรียกว่า MOOCs (Massive Online Open Courses) จึงส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเรียนน้อยลง ผู้เรียนสามารถมีทุนวิจัยของตนเอง" "ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้สอนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องสร้างห้องเรียนหรืออาคารเรียน เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเป็
เคล็ดลับยื่นซองประมูลงานให้ชนะ การยื่นซองประมูลงานหรือที่เรียกกันแบบชาวบ้านว่าการประกวดราคา มีความสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ และมีหลายบริษัทที่ความอยู่รอดของกิจการขึ้นอยู่กับชัยชนะของการยื่นซองประมูล
ทุกวันนี้ วิธีการสื่อสารของเรานั้นดูเหมือนจะไม่ใช้การโทรศัพท์หากันอีกต่อไป แต่กลายเป็นการส่งข้อความผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Social Network นั่นเอง ซึ่งแนวโน้มความนิยมใช้ Social Network ทำให้เห็นว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นสื่อหลักในการสื่อสารอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็น “ยุคของการแพร่หลายทางสังคมออนไลน์ (Social Ubiquity)” ดังจะเห็นจากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประเทศไทยปี 2556 ของ ETDA พบว่า มีผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ถึงร้อยละ 93.8 จากจำนวนคนที่ทำการสำรวจ ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์