หลังจาก Mark Zuckerberg (มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก) ผู้บริหาร facebook (เฟซบุ๊ก) มองเห็นศักยภาพและอนาคตของแอพส่งผลให้ผู้คนมากมายสนใจอยากสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นอย่าง Instagram (อินสตาแกรม) ขึ้นมาบ้าง ด้วยหวังว่าแอพของตนจะมีนักลงทุนสนใจและจะได้รับทรัพย์ก้อนโตบ้าง แต่หนทางอาจไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิดนัก แอพพลิเคชั่นถ่ายภาพและแชร์ภาพอย่าง Instagram ซึ่งได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกอย่างมากจนมีผู้ใช้งานกว่าแปดสิบล้านราย ทั้งยังเป็นแอพพลิเคชั่นซึ่งก่อให้เกิดกระแส Social Photo Sharing หรือสังคมการแชร์รูปออนไลน์ กระทั้งยอมจ่ายเงินกว่าร้อยล้านเหรียญเพื่อให้ได้ Instagram มาครอบครอง
Instagram เกิดขึ้นเพราะผู้พัฒนาต้องการสร้างการสื่อสารวิธีใหม่โดยการเล่าเรื่องผ่านภาพถ่าย ซึ่งจุดเด่นของ Instagram คือใช้งานง่าย มีฟิลเตอร์แต่งภาพหลากหลายแบบ ทั้งการปรับแสงแต่งสีให้ภาพออกมาตามอารมณ์ความรู้สึกและสไตล์ของผู้ใช้จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้และกลายเป็นเสน่ห์ของภาพถ่ายอีกด้วย นอกจากใช้ถ่ายภาพและแต่งภาพได้ง่ายดายแล้ว การแชร์ภาพอวดเพื่อนๆ ยังสะดวกอีกด้วย เพียงกดปุ่มแชร์ ภาพก็จะอวดโฉมสู่สายตาเพื่อนได้ทันที แถม Instagram ยังเปิดให้ใช้งานฟรี ซึ่งทำให้ดึงดูดผู้ใช้หน้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 80 ล้านรายแล้วและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หากเราลองทำแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพคล้าย Instagram ขึ้นมาจริงๆ จะมีโอกาส "ได้ขาย" ให้เจ้าใหญ่อีกคนได้เหมือนกันได้จริงหรือ?
ถ้าจะทำจริงๆ ขั้นแรกเราต้องสร้างจุดเด่นให้ได้เสียก่อน และจุดเด่นนั้นต้องเด่นมากพอจนสามารถเปลี่ยนใจผู้ใช้ Instagram ให้หันมาสนใจแอพถ่ายภาพหรือ Instagram ฉบับลอกเลียนของเรา แต่โจทย์นี้อาจยากอยู่สักหน่อย เพราะแอพใหม่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Instagram ตัวเดิมซึ่งมีคุณสมบัติเด่นๆ ครบถ้วนอยู่แล้วทั้งยังใช้ง่ายและคุ้นมือแล้ว หากแอพตัวใหม่ไม่มีจุดเด่นที่แตกต่างจนสามารถดึงให้ผู้ใช้มาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับเราแล้วละก็คงอยากที่จะชนะใจผู้ใช้แล้วแย่งส่วนแบ่งจาก Instagram ได้แน่นอน และเพราะแอพใหม่เป็นแอพที่คิดต่อและพัฒนาจาก Instagram ตัวเดิม สักวันเราก็จะเดินมาถึงทางตัน ไม่สามารถคิดต่อยอดได้อีก การพัฒนาจะกลายเป็นเรื่องยาก ขณะเดียวกัน Instagram ก็คงพัฒนาตัวเองตลอดเวลาอย่างแน่นอน การก้าวข้ามจึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่เดินตาม Instagram ให้ทันยังเป็นเรื่องยาก
เมื่อแอพถ่ายภาพของเราเป็นเพียงการทำสิ่งเดิมให้ดีขึ้น ไม่ใช่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ส่วนแบ่งทางการตลาดก็คงไม่สูงมากเพราะไม่อาจสู้ Instagram ได้ เหตุผลทั้งสองข้อนี้ก็เพียงพอให้นักลงทุนมองข้ามแอพของเราแล้ว เพราะคงไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากนำเงินมาเสี่ยงกับธุรกิจที่ไม่มีจุดแข็ง แถมโอกาสเติบโตยังต่ำอีก แต่หากเราจะเบนเข็มมาขายแอพผ่าน App Store หรือ Google Play ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะ Instagram เปิดให้โหลดใช้งานได้ฟรี คงยากที่แอพใหม่ลูกเล่นธรรมดาๆ ไม่โดดเด่นอะไรแถมมีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดจะแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจาก Instagram ที่มีผู้ใช้กว่าแปดสิบล้านรายได้
=====================================
การนำ Instagram หรือของดีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาใหม่ก็ไม่ต่างจากการก็อปปี้งานคนอื่น เพราะไม่ว่าจะเสริมอะไรเพิ่มเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้สิ่งนั้นมีจุดเด่นมากกว่าสินค้าตัวเดิมเท่าไรนัก ดังนั้นหากเราพร้อมจะทุ่มเทกายใจและยอมเอาทุกสิ่งเข้าเสี่ยงให้กับงานชิ้นหนึ่งแล้วละก็ ลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาใหม่จะดีกว่าหรือไม่? ไม่ว่าสิ่งนั้นคืออะไรก็ตาม อาจเป็นแอพพลิเคชั่น ผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือบริการ ลองคิดสิ่งใหม่ที่ก้าวหน้าไปกว่าเดิม เพราะความคิดคนอื่นไม่ใช่หนทางเริ่มต้นที่ดีเสมอไป คิดเองเริ่มเอง แม้จะเสี่ยงบ้างล้มลุกบ้าง เหนื่อยหนักบ้าง แต่ผลตอบแทนและความภาคภูมิใจ ชัดเจนกว่าแน่นอน
Credit : Incquity.com