จะเห็นว่าผู้ประกอบการหลายๆ ธุรกิจเริ่มตื่นตัว อย่างชัดเจน ที่เห็นได้ล่าสุด คือ ความตื่นตัวในการจะบุกตลาดประเทศพม่า หรือเมียนมาร์ ที่กำลังเปิดประเทศ และมีการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจครั้งสำคัญ
สำหรับประเทศพม่าในวันนี้ ถ้าการเลือกตั้งซ่อมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทำให้คิดเลยไปได้ว่า พม่าอาจจะมีผู้นำประเทศที่อยู่ในอำนาจได้ต่อเนื่องทั้งสมัยเป็นคนแรก ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ประเทศพม่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จะมีกลุ่มทุนเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าเป็นจำนวนมาก และมีเม็ดเงินสะพัดอย่างมหาศาล
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ การเดินทางของผู้ประกอบการไทยไปสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็ยังเป็นเรื่องที่กล้าๆ กลัวๆ ซึ่งจะมีก็แต่บริษัทยักษ์ใหญ่บางบริษัทเท่านั้น ที่เดินหน้าเต็มรูปแบบเพื่อเข้าไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน
หากจะพูดถึงธุรกิจที่รุกตลาดอาเซียน หนึ่งในนั้นต้องมีกลุ่มธุรกิจที่ใช้ "ความคิดสร้างสรรค์" ซึ่งอยากบอกว่าศักยภาพของงานสร้างสรรค์ เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ AEC นั้น ผมเชื่อว่าคนไทยมีพลังสร้างสรรค์ระดับโลก นี่ไม่ใช่เป็นเพียงคำพูดที่หลงตัวเอง เพราะมีรางวัลมากมายที่ประกาศความสำเร็จในระดับโลกของ Creative ของไทย อาทิเช่น รางวัล CLIO AWARDS รางวัลในงานเทศกาลภาพยนตร์ เมืองคานส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส สิ่งเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนผลงานของ Creative ไทย
ในธุรกิจอีเวนท์ บริษัทไทย หลายๆ บริษัท ก็เป็นบริษัทที่มีผลงานโดดเด่นในระดับภูมิภาค และถือได้ว่าเป็นผู้นำอาเซียน ทั้งในส่วน Marketing Event ,Public Event ,Museum Design,Entertainment Business ยกเว้นในงานประเภท MICE ที่ประเทศไทย ยังเป็นรองประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ด้วยนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลของเขา ตั้งแต่การสร้างศูนย์ประชุม การพัฒนากาสิโน และการสร้าง Tourist attractions เพื่อกรุยทางสู่การเป็นผู้นำทางด้าน MICE
แต่อย่างไรก็ตาม ในหลายปีมานี้ เยาวชนคนรุ่นใหม่ของบ้านเรา ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ในด้านงานดีไซน์ และงานสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ กันมากขึ้น และก็ได้เริ่มแสดงศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ในหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น กลุ่มงานด้านแฟชั่น การดีไซน์เครื่องประดับ การออกแบบแพ็คเกจ งานสถาปัตยกรรม-การตกแต่งภายใน กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์ สื่อแอนิเมชัน และกิจกรรมบันเทิง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้คนต่างชาติได้รู้จักคนไทยดีขึ้น ดังนั้น ถ้าหากใครจะกล่าวว่า คนรุ่นเจเนอเรชั่น อายุต่ำกว่า 40 ปี ในทุกวันนี้ ไม่เอาไหน คงต้องไปแก้คำพูดใหม่ เพราะคนกลุ่มนี้ จะเป็นพลังที่เปลี่ยนประเทศ ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์จากคนหนุ่มสาวทั้งหมด
ดังนั้น โอกาสของเรา เริ่มต้นจากความพร้อมของเราในแต่ละบุคคล แต่ละบริษัท และแต่ละอุตสาหกรรม แต่ว่าความพร้อมที่สำคัญที่สุด ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้น อยู่ที่เราได้เดินหน้าด้วยการนำศักยภาพของเราไปปรากฏในกลุ่มประเทศอาเซียน และก่อให้เกิดเป็นเม็ดเงิน ซึ่งเราคงต้องกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ทั้งสมาคมโฆษณา สมาคมสถาปนิกฯ สมาพันธ์ภาพยนตร์ และสมาคมสร้างสรรค์ธุรกิจการจัดงาน ให้กำหนดแผนงานในการนำเป้าหมายมาปฏิบัติจริง
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราต้องเร่งจัดกระบวนทัพแห่งพลังสร้างสรรค์ของไทย เพื่อเข้าไปสู่ตลาดแห่งอนาคตที่ทุกคนพูดถึงอยู่ทุกวันนี้
ผมทราบมาว่าในหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการเงินของประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ ทั้งการเปิดสาขา การซื้อกิจการท้องถิ่น การวางระบบด้านไอที ที่สามารถเชื่อมโยงบริการทางการเงินในอาเซียนเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งผมมองว่าเป็นความพร้อมที่น่าชื่นชม และน่าประหวั่นพรั่นพรึงสำหรับประเทศไทยอย่างมากทีเดียว และยังมีปรากฏการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นในอีกหลายๆ อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ผมก็ยังเชื่อว่าโอกาสในธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ ยังมีความชัดเจนว่า ประเทศไทยเรายังได้เปรียบอยู่มาก แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่าความได้เปรียบนั้น หากเรายังไม่มีแผนที่จะพัฒนาอย่างมั่นคงเสียแต่วันนี้ ผมเชื่อว่าภายในไม่ถึง 5 ปี ความได้เปรียบของเราก็จะค่อยๆ ถดถอยไป จนไม่เหลือศักยภาพแห่งความเป็นผู้นำอย่างแน่นอน
เรายังมีหวังที่จะเป็นผู้นำธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ในอาเซียน เพียงแต่ต้องเริ่มก้าวเดินในวันนี้
Credit : คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์
By : www.SoGoodWeb.com