เจาะเทรนด์ฮิตการตลาด “กล่องสุ่ม” พลิกธุรกิจ สร้างออเดอร์รัวๆ

ความเป็นมาของกล่องสุ่ม

         กล่องสุ่ม เป็นวิธีการทำการตลาดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยต้องย้อนไปในสมัยยุค เอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ที่ร้านกิโมโนคละสินค้าภายในร้านใส่ถุงทึบวางขาย ตั้งชื่อว่า ถุงเอบิสึ มาจากชื่อเทพเจ้าการค้า และโชคลาภของญี่ปุ่น จากนั้น ยุคเมจิ (ค.ศ. 1868 - ค.ศ. 1912) เปลี่ยนคำว่า ถุงเอบิสึ เป็นคำว่า ฟุกุบุคุโระ (แปลว่าโชคดี) และเริ่มวางขายช่วงปีใหม่  และขยายไปทั่วประเทศช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแต่นั้นมา ถุงโชคดี หรือ Lucky bag ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และหลายคนก็ชื่นชอบ จนทำให้ในช่วงปีใหม่ของทุกปี ร้านค้า และแบรนด์  ต่างเปิดขายฟุกุบุคุโระเป็นจำนวนมาก

         สำหรับในประเทศไทย เทรนด์กล่องสุ่มเริ่มเป็นที่รู้จักช่วงปี 2562  โดยมียูทูบเบอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ เริ่มทำคลิปเปิดกล่องสุ่ม รีวิวสินค้าให้ดูกันแบบหลากหลาย ว่าคุ้มค่ากับการซื้อหรือไม่ จึงทำให้หลายคนอยากซื้อตามอยากลองกล่องสุ่ม จนพ่อค้าแม่ค้าที่ปรับตัวตามกระแสก็สามารถสร้างรายได้จากจุดนี้ได้มหาศาล

ทำไมกล่องสุ่มถึงได้รับความนิยม

         สำหรับเหตุผลที่ทำไมลูกค้าส่วนใหญ่ชอบการเปิดกล่องสุ่ม และเกิดเป็นกระแสไวรัลมากๆ ในช่วงนี้ เหตุผลนั่นก็คือ มนุษย์รู้สึกชอบเรื่องที่ไม่คาดคิด (ในเชิงบวก) และเกิดความพึงพอใจเมื่อได้รับบางสิ่งบางอย่าง ในแง่มุมของวิทยาศาสตร์ ได้อธิบายไว้ว่า ระบบในสมองของเราจะผลิต สารโดปามีน ที่ทำให้เกิดความรู้สึกกระฉับกระเฉง ตื่นเต้น และเกิดความสุข พึงพอใจขึ้น เมื่อมีสิ่งเร้าเข้ามาเป็นตัวกระตุ้น เรียกง่าย ๆ ว่า โดปามีน เป็นสารแห่งความสุขตัวหนึ่ง ทำให้มนุษย์เราชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ หรือรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น


ทำไมต้องจัดกล่องสุ่ม

         1.ระบายสต็อก ผู้ขายสามารถรวบรวมสินค้าใดก็ได้ที่มีอยู่ในสต็อก นั่นก็คือ โอกาสสร้างออเดอร์ที่ขายไม่ค่อยดีสามารถล้างสต็อก แต่สิ่งที่ต้องระวัง ร้านค้าที่ขายของหลายอย่าง สิ่งที่ใส่ไป จะต้องไม่หลุดไปจากสินค้าที่วางไว้ในเรื่องกล่องสุ่ม เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกยัดเยียดสินค้ามากเกินไป

         2.ควบคุมต้นทุน การทำสินค้าแบบสุ่ม ผู้ขายเป็นผู้ควบคุมต้นทุนด้วยตัวเอง การจัดสินค้าแบบเฉลี่ยราคาสูงต่ำ ช่วยถัวต้นทุนสินค้าได้อัตโนมัติ และยิ่งขายได้เยอะ ยิ่งทำให้มีโอกาสเพิ่มยอดขายในสินค้าหลากหลายประเภทมากขึ้นด้วย

         3.เปิดตัวสินค้าใหม่ สามารถใส่สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มเดียวกัน ให้กับลูกค้าที่ไม่เคยซื้อหรือใช้ได้ไปทดลองใช้ ถือเป็นการเริ่มต้นโปรโมทไปด้วย


วิธีการทำการตลาดด้วย “กล่องสุ่ม”

         1.ปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ และคอนเทนต์ด้วยการเน้น Keyword สำหรับแบรนด์ไหนที่ต้องการสร้างแคมเปญที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล ลองรีเสิร์ชข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword กล่องสุ่ม, เปิดกล่องสุ่ม หรือ คำค้นหาที่ใกล้เคียง เพื่อสร้าง Organic Content แบบไม่ต้องเสียเงิน นอกจากที่เราจะได้ Traffic เข้ามายังเว็บไซต์แล้ว ยังได้ฐานลูกค้าเพิ่มใหม่อีกด้วย

         2.สร้างโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลวันหยุด ด้วยแคมเปญเปิดกล่องสุ่ม เมื่อใกล้ถึงช่วงเทศกาลวันปีใหม่ หรือเทศกาลสำคัญต่าง ๆ นักการตลาดสามารถออกแบบกล่องสุ่มที่มีสินค้าตามเทศกาลได้ เพื่อให้เกิดกระแสที่น่าสนใจมากขึ้น และกลายเป็นของขวัญที่ผู้ซื้อสามารถนำไปมอบให้กับคนรอบตัว ทำให้เกิดความรู้สึกเซอร์ไพรส์ และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าจดจำ


          3.สร้างแคมเปญร่วมกับ Influencer เพื่อเปิดกล่องสุ่ม ลุ้นรับของ หลายๆ แบรนด์มีการส่งกล่องสุ่มไปให้กับ Influencer เพื่อรีวิวสินค้าและรีวิวของที่ได้รับ เพื่อให้ผู้ติดตามของกลุ่ม Influencer ได้ฟังรีวิวจากคนที่พวกเขาชื่นชอบและไว้ใจ ซึ่งข้อดีจากการที่เรามีพาร์ทเนอร์ หรือมีคนดังบอกต่อสินค้า สามารถสร้าง Awareness ในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่คล้ายกับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มี รวมทั้งยังทำให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เกิดความสนใจในสินค้าของเรา และเกิดการตัดสินใจในการซื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้จะเชื่อถือการรีวิวของ Influencer ที่เขาติดตาม หากมีการรีวิวที่มีความจริงใจ ยิ่งจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

         ดังนั้น กล่องสุ่มทุกกล่องควรมีมาตรฐานที่มั่นใจได้ว่าเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วจะพอใจอย่างแน่นอน และของที่ได้มีความคุ้มค่าตามมูลค่าที่ลูกค้าจ่าย รวมถึงการทำข้อมูลราคาสินค้าเตรียมเอาไว้เผื่อในกรณีที่ลูกค้าถามถึงความคุ้มค่า ก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาระหว่างลูกค้าได้มากเช่นกัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : stepstraining